สมุนไพรบำรุงสายตา
ผู้สูงอายุมักมีปัญหาเกี่ยวกับโรคสายตา เช่น ตาฝ้าฝาง เคืองตา และมักจะขาดไวตามินหลายชนิดรวมถึงไวตามินเอ ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับสายตา และการมองเห็น ผู้สูงอายุ จึงควรรับประทานพืชผักต่างๆ ที่มีไวตามินเอ สูง เช่น ยอดแค ใบกะเพรา ใบขี้เหล็ก แครอท ผักเชียงดา ยอดฟักขาว ผักบุ้ง ฟักทอง เป็นต้น
กะเพรา ชื่ออื่นๆ : กะเพราขาว, กะเพราแดง, กอมก้อ, กอมก้อดง
-ใบกะเพราประกอบด้วยสาารอาหารหลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน ไวตามินซี ไนอะซิน ฟอสฟอรัส เหล็ก และแคลเซียมในใบกะเพราจะมีเบต้าแคโรทีนสูง (7,857 ไมโครกรัม/100 กรัม) ซึ่งสารนี้จะเปลี่ยนเป็นไวตามินเอในร่างกายของคนเรา กะเพราแดงมีฤทธิ์แรงกว่ากะเพราขาว ในทางยาจึงนิยมใช้กะเพราแดง ส่วนกะเพราขาวนิยมใช้ปรุงอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาว เช่น ใช้ปรุงแกงป่า เนื้อ ปลา และผัดเผ็ดต่างๆ
-สรรพคุณทางยา : นอกจากกะเพราจะช่วยบำรุงสายตาแล้ว ยังให้ประโยชน์อื่นๆ อีก ได้แก่
1. ใช้เป็นยาลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาการแน่น จุกเสียด แก้ปวดท้องทั้งเด็กและผู้ใหญ่
2. แก้คลื่นไส้อาเจียน จากอายุไม่ปกติ
3. ขับเหงื่อ ขับน้ำนมสำหรับหญิงแม่ลูกอ่อน
4. ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด
5. ใช้ภายนอกแก้ กลาก เกลื้อน และช่วยไล่ยุง
ขี้เหล็ก ชื่ออื่นๆ : ขี้เหล็กบ้าน, ขี้เหล็กหลวง, ขี้เหล็กแก่น, ขี้เหล็กใหญ่, ยะหา
-ดอกตูม และใบอ่อนใช้เป็นอาหาร เช่น แกงขี้เหล็ก และลวกเป็นผักจิ้ม ในใบขี้เหล็กมีเบต้าแคโรทีน สูง (7,181 ไมโครกรัม/100 กรัม ) และมีสารสำคัญเป็นมารจำพวกโครโมน ซึ่งสารดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นบาราคอล (barakol)เมื่ออยู่ ในสภาวะที่เป็นกรด และยังพบแอนทราควิโนนเล็กน้อยซึ่งทำให้มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ
-สรรพคุณทางยา : นอกจากจะช่วยบำรุงสายตาแล้ว ใบ และ ดอกอ่อนของขี้เหล็กยังใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ท้องผูก ช่วยให้นอนหลับ คลายกังวล ระงับประสาท ส่วนแก่นใช้เป็น ยาระบาย ฟอกโลหิต และช่วยบำรุงโลหิต
แครอท ชื่ออื่นๆ : ผักกาดหัวเหลือง, ผักชีหัว
-หัว (ราก) แครอทใช้เป็นผักสลัด ผักจิ้ม และใช้ประกอบ อาหารหลายชนิด ในหัวประกอบด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารส้มเหลืองในปริมาณสูง (6,994 ไมโครกรัม/100 กรัม) ใช้แต่งสีให้อาหารมีสีเหลือง
-สรรคุณทางยา : สารเบต้าแคโรทีนจะเปลี่ยนเป็นไวตามิน เอ ภายในร่างกาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสายตา โดยเฉพาะโรคตาฟาง นอกจากนี้หัวแครอทยังช่วยขับปัสสาวะ เนื่องจาก มีปริมาณเกลือโปแตสเซียมสูง และยังมีรายงานว่าน้ำมันหอมระเหยในหัวแครอทยังมีฤทธิ์ขับพยาธิไส้เดือนได้อีกด้วย
ผักเซียงดา ชื่ออื่นๆ : ผักเจียงคา
-ยอดอ่อนของผักเซียงดา เป็นผักที่ชาวเหนือนิยมรับประทาน ทั้งในรูปผักสด และนำมาแกงกับปลาแห้ง และใช้เป็นส่วนประกอบในแกงแค ยอดอ่อนของผักเซียงดามีเบต้าแคโรทีน สูง (5905 ไมโครกรัม/100 กรัม)
-สรรพคุณทางยา : ในตำราไทยไม่มีการบันทึกสรรพคุณทางยาของผักเซียงดา ส่วนทางเหนือใช้ใบผักเซียงดาตำละเอียด นำมาพอกกระหม่อมเพื่อรักษาไข้ รักษาหวัด หรือใช้เป็น ส่วนประกอบในตำหรับยาแก้ไข้
ฟักข้าว ชื่ออื่นๆ : ผักข้าว ขี้กาเครือ พุคู้เด๊าะ
-ฟักข้าวเป็นพืชที่ใช้ยอดอ่อน ใบอ่อน และผลอ่อนรับประทานเป็นผักได้ โดยนำมานึ่งหรือลวกให้สุกทานกับน้ำพริก หรือ นำไปปรุงเป็นแกง เช่น แกงแค ยอดอ่อนของฟักข้าวมีรสขม ออกหวาน มีเบต้าแคโรทีนค่อนข้างมาก (4,782 ไมโคกรัม/100 กรัม) จึงช่วยบำรุงสายตา
-สรรพคุณทางยา : ใบใช้เป็นยาถอนพิษ ใช้เป็นส่วนผสมในยาเขียว รากรสเย็น และรสเบื่อเล็กน้อย ใช้ถอนพิษไข้ทั้งปวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น