Golden Dreams TMS&Herb

วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย

          ทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี มีความฟิต การออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อ หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง
         การออกกำลังกายไม่ได้หมายถึงการต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกายเป็นการแข่งขันกับตัวเอง
หลายคนก่อนจะออกกำลังกายมักจะอ้างเหตุผลของการไม่ออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ปัญหาเกี่ยวกับอากาศ ทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย แต่ลืมไปว่าการออกกำลังกาย อาจจะให้ผลดีมากกว่าสิ่งที่เขาเสียไป
         เป็นที่น่าดีใจว่าการออกกำลังให้สุขภาพดีไม่ต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่วันละครึ่งชั่วโมงก็พอ และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่หรือเครื่องมืออะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว การออกกำลังจะทำให้รูปร่างดูดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคอ้วน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น มีพลังที่จะทำงานและต่อสู้กับชีวิต นอกจากนั้นยังสามารถลดความเครียดได้ด้วย

ฟิตเนส Physical Fitness

ร่างกายจะมีความฟิตจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ ห้าองค์ประกอบ อ่านที่นี่

เริ่มต้นออกกำลัง

การเริ่มต้นการออกกำลังจะเป็นสิ่งที่ยาก แต่เมื่อออกจนเป็นนิสัยจะก่อให้เกิดผลดีในระยะยาว อ่านที่นี่

ประโยชน์ของการออกกำลัง

ประโยชฯ์ของการออกกำลังกายคือสุขชกายและสุขใจ อ่านประโยชน์การออกกำลังกายที่นี่

ความปลอดภัยในการออกกำลังกาย

ความปลอดภัยในการออกกำลัง ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การประเมินสุขภาพตัวเอง การเลือกวิธีการออกกำลัง การเลือกอุปกรณ์การออกกำลัง และ ขั้นตอนออกกำลังกายที่ถูกต้อง อ่านความปลอดภัยในการออกกำลังที่นี่

การออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายประจำและต่อเนื่องจะทำให้สุขภาพดี อ่านที่นี่

เมื่อไรจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลัง

ท่านที่อายุ45 ปีที่ไม่เคยออกกำลัง เป็นโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันสูงหรือเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย จะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย อ่านที่นี่

ทำไมต้องออกกำลัง

การออกกำลังจะทำให้สุขภาพกาย สุขภาพจิตดี และยังป้องกันโรคเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคซึมเศร้า อ่านที่นี่

การออกกำลังกายมากไป

การออกกำลังกายพอเหมาะจะทำให้สุขภาพดี การออกกำลังมากไปอาจจะอันตรายต่อสุขภาพ อ่านที่นี่

ระยะเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสม

ระยะเวลาการออกกำลังกาย จะขึ้นกับความหนักของการออกกำลังกาย หากออกแบบเบาๆจะต้องออกกำลังกายนานกว่า ผู้ที่ออกกำลังกายแบบหนักอ่านที่นี่

การประเมินความหนักของการออกกำลัง

ความหนักของการออกกำลังกายจะแบ่งเป็นสามระดับ ตามการเต้นของหัวใจ เป้าหมายต้องออกกำลังให้หัวใจเต้นประมาณ80 % ของหัวใจเป้าหมายอ่านที่นี่

วิธีการออกกำลังกาย

การเลือกการออกกำลังจะต้องคำนึงถึงอายุ เพศ โรคประจำตัว สุขภาพโดยทั่วไป และเป้าหมายการออกกำลังขั้นตอนในการออกกำลังกาย อ่านที่นี่

การป้องกันการบาดเจ็บ

การบาดเจ็บจากการออกกำลังจะหมายถึงการเกิดโรค การบาดเจ็บของข้อ กล้ามเนื้อ อ่านที่นี่

อัตราการเต้นหัวใจเป้าหมาย

Icon
การออกกำลังกายจะบอกว่าออกมากออกน้อย เราจะนับการเต้นของหัวใจว่าเต้นได้ถึงเป้าหมายหรือไม่ อ่านที่นี่

ลมแดด

โรคลมแดดเป็นกลุ่มอาการที่ร่างกาย ไม่สามารถจัดการกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้มีอาการหน้ามืดเป็นลม หากรักษาไม่ทันอาจจะมีอันตรายถึงชีวิตอ่านที่นี่

ตะคริว

อาการตะคริวเกิดจากการที่กล้ามเนื้อมีการหดตัว อย่างต่อเนื่องทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อ สาเหตุอาจจะเกิดจาก กล้ามเนื้อทำงานอย่างต่อเนื่อง และอาจจะเกิดจากการเสียสมดุลของเกลือแร่ อ่านที่นี่

โรคที่มากับคนที่ไม่ออกกำลังกาย

ขณะป่วยควรออกกำลังกายหรือไม่

         ขณะเจ็บป่วยไม่ควรจะออกกำลังกายเพราะจะทำให้โรคเป็นมากขึ้น ควรจะพัก
จนอาการดีขึ้น หากพักเกินสองสัปดาห์เวลาเริ่มออกกำลังกายควรจะเริ่มเบาๆก่อน และหากท่านเป็นโรคเรื้อรังควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย


จริงหรือไม่ที่การออกกำลังกายโดยการเดินดีพอพอกับการวิ่ง

         การเริ่มต้นออกกำลังควรใช้วิธีเดิน เนื่องจากจะไม่เหนื่อยมาก ปวดข้อไม่มาก และลดน้ำหนักได้ ส่วนการวิ่งจะเป็นการออกกำลังที่คุณเตรียมร่างกายไว้พร้อม เพราะการวิ่งจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ทำให้เหนื่อย มีการปวดข้อ ดังนั้นการออกกำลังโดยการเดินเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลัง คนอ้วน คนที่มีโรคประจำตัว แต่สำหรับการวิ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีโรค และต้องการความฟิต

คนท้องควรจะออกกำลังหรือไม่

คนท้องควรออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ออกกำลังกายแบบเบาๆโดยการเดิน ไม่ควรจะวิ่ง ไม่ควรยกของหนัก รายละเอียดอ่าน การออกกำลังในคนท้อง


จะรู้ได้อย่างไรว่าออกกำลังมากไป

         ท่านสามารถสังเกตขณะออกกำลังกายว่ามากไปหรือไม่ โดยสังเกตอาการดังต่อไปนี้
  • หัวใจเต้นเร็วมากจนรู้สึกเหนื่อย
  • หายใจเหนื่อยจนพูดไม่เป็นประโยค
  • เหนื่อยจนเป็นลม
  • มีอาการปวดข้อหลังจากการออกกำลังกาย

การรักษาน้ำหนัก

การรักษาน้ำหนัก

         อาหารที่เรารับประทานเข้าไป จะใช้เป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต เช่นใช้หล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ใช้ในการเดิน การหายใจ การทำงาน แต่ถ้าหากเรารับประทานอาหาร ที่มีพลังงานมากกว่า ที่เราใช้ส่วนเกินของพลังงาน จะสะสมในรูปไขมัน ผลทำให้น้ำหนักท่านเพิ่ม
         ท่านผู้อ่านควรที่จะรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกต ิคือดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 20-20 กก./ตารางเมตร หากต่ำกว่านี้ร่างกายอาจจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หากมากกว่านี้อาจจะทำให้เกิดโรคต่างๆเช่น โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง

โรคอ้วนทำให้เกิดโรคอะไร

         คนอ้วนมักจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดโรค ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนั้นโรคอ้วนยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด

การลดน้ำหนัก

วิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือการลดพลังงานจากอาหาร และการออกกำลังกายหรืออาจจะทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน
  1. ลดพลังงานจากอาหาร
  • รับประทานอาหารพวกผักผลไม้ให้มาก ไม่ปรุงอาหารด้วยไขมัน
  • ลดอาหารไขมัน เช่นอาหารทอด ผัด เช่นปาท่องโก๋ กล้วยทอด ไก่ทอด ฟิซซ่า โรตี กะทิ
  • ดื่มนมพร่องมันเนย งดเนย
  • ลดการบริโภคน้ำตาล ของหวาน
  • ลดสุรา
  1. การออกกำลังกาย
  • ใช้การเดินแทนการนั่งรถ
  • ใช้บันไดแทนการขึ้นลิฟต์
  • ไปเล่นกับลูก ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อาหารเพื่อ"สุขภาพ"

อาหารเพื่อสุขภาพ

หมายถึงอาหารที่เมื่อรับเข้าไปแล้วน้ำหนักจะต้องอยู่ในเกฑ์ปรกติ ไม่เป็นโรคเรื้อรัง โดยการเพิ่มอาหารผักและผลไม้ ลดเกลือ ลดน้ำตาล ลดไขมัน

อาหารสุขภาพ

องค์การอนามัยโรคได้นิยามเรื่องอาหารสุขภาพว่า การรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณภาพ ร่วมกับการไม่ออกกำลังกายจะเป็นบ่อเกิดโรคเรื้อรัง องค์การอนามัยโลกได้แนะนำอาหารสุขภาพดังนี้
  • รับประทานอาหารที่สมดุลและมีน้ำหนักที่ปรกติ
  • ให้ลดอาหารไขมัน และหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว Saturated fat,Transfatty acid
  • ให้รับประทานอาหารพวกผัก ผลไม้ ธัญพืขเพิ่มมากขึ้น
  • ลดอาหารที่มีน้ำตาล
  • ลดอาหารเค็ม
สำหรับ National Health Service (NHS)ของประเทศอังกฤษได้นิยามอาหารสุขภาพไว้ว่า มีสองปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงได้แก่
  • รับประทานอาหารที่ให้พลังงานสมดุลกับพลังงานที่ใช้
  • รับประทานอาหารที่มีความหลากหลาย
NHSจึงได้กำหนดแนวทางอาหารสุขภาพไว้ดังนี้
  • ทุกท่านต้องรู้จักจานอาหารสุขภาพซึ่งมีอาหารทั้งหมด 5 หมู่
  • ในจานอาหารสุขภาพจะบอกเราว่าควรจะรับประทานอาหารให้มีสัดส่วนอย่างไร
สำหรับสมาคมโรคหัวใจประเทศอเมริกาได้กำหนดอาหารสุขภาพไว้ดังนี้
  1. รับประทานผักและผลไม้เพิ่มโดยตั้งเป้าให้รับผักและผลไม้วันละ 4-5ส่วนทุกวัน
  2. ให้รับประทานธัญพืชเพิ่มEat more whole-grain foods.เนื่องจากผักและผลไม้มีไขมันต่ำ ใยอาหารสูงได้แก่  Whole-grain foods include whole-wheat bread, rye bread, brown rice and whole-grain cereal.
  3. ให้ใช้น้ำมัน olive, canola, corn or safflower oil สำหรับปรุงอาหารและจำกัดจำนวนที่ใช้ 
  4. รับประทานไก่ ปลา ถั่วมากกว่าเนื้อแดง เนื่องจากไก่ที่ไม่มีหนัง ปลา ถั่วจะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าเนื้อแดง.
  5. อ่านฉลากก่อนซื้อหรือรับประทานทุกครั้งเพื่อเลือกอาหารที่มีคุณภาพ
หลักการง่ายๆที่จะทำให้เราได้รับอาหารเพื่อสุขภาพ

อาหารจานสุขภาพ

ชนิดของอาหาร และสัดส่วนของอาหารที่ควรจะรับประทานทุกเพศ ทุกวัย ทุกน้ำหนัก อ่านที่นี่

รับประทานผักและผลไม้ให้มาก

ให้รับประทานผัก และผลไม้ห้าส่วนทุกวันโดยการสลับผักและผลไม้ อ่านที่นี่

รับประทานปลาให้มาก

เนื้อปลาจะให้โปรตีน วิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญ ควรจะรับประทานอย่างน้อยสองส่วนต่อสัปดาห์ ปลาที่ควรจะรับประทานควรจะเป็นประเภทปลาที่มีมันสูง รับประทานปลา

ลดทั้งน้ำตาลและไขมัน

ไขมันจากสัตว์ หรือไขมันจากพืชบางชนิด มีไขมันอิ่มตัวหรือไขมัน Trans fat ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพต้องหลีกเลี่ยง ลดอาหารไขมัน ลดน้ำตาล

รับประทานเกลือให้น้อย

การรับประทานเกลือมาก นอกจากจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงแล้ว ยังทำให้เกิดโรคมะเร็ง กระดูกพรุน เกี่ยวกับเกลือเกลือและสุขภาพอ่านที่นี่

ฉลาดเลือกรับประทานอาหารแป้ง

อาหารแป้งเป็นอาหารหลักที่ให้พลังงาน การเลือกอาหารแป้งที่มีใยอาหารจะช่วยลดโรคเรื้อรัง อ่านอาหารประเภทแป้ง
เรื่องที่ควรจะต้องรู้เกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาหารสุขภาพ
อาหารต้านโรค อาหารที่ดีที่สุดสำหรับหัวใจ ถั่วเหลือง อาหารสำหรับโรคไต อื่นๆอีกมากมาย อาหารเพื่อสุขภาพ
อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ
ร่างกายคนเราประกอบไปด้วยน้ำประมาณร้อยละ40 เสียน้ำประมาณวันละ 2.5ลิตร ดังนั้นแต่ละวันเราจะต้องได้รับน้ำอย่างน้อยวันละ 2.5 ลิตร อ่านการดื่มน้ำ
อาหารเช้าเป็นอาหารที่มีความสำคัญ
ช่วงที่เราหลับสมองจะได้รับอาหารจากที่สะสม หลังจากตื่นสมองควรจะได้รับอาหารที่เรารับประทาน การรับประทานอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี อ่านการรับประทานอาหารเช้า
เข้าใจเรื่องแคลรอรี่
เป็นหน่วยวัดพลังงาน อาหารสำเร็จรูปทั้งหลาย จะมีรายละเอียดของปริมาณพลังงาน ของอาหาร ที่รับประทานเข้าไปอ่านพลังงานที่นี่
มาลดน้ำหนักกันเถอะ
น้ำหนักที่เกินจะทำให้เกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคอ้วน
ฉลากอาหาร
หมายถึงการที่ผิวหนังเกิดการอักเสบ จากสิ่งที่มาสัมผัสผิวหนัง มีด้วยกันสองรูปแบบ อ่านเรื่องชนิดของการแพ้ อาการ และการรักษา อ่านที่นี่
รับประทานอาหารนอกบ้าน
ท่านที่ห่วงสุขภาพเมื่อต้องไปรับประทานอาหารนอกบ้าน จะมีปัญหาเรื่องไม่สามารถที่จะเลือกอาหารเองได้ได้ หรืออาจจะเผลอตัว อ่านแนวทางที่จะรับประทานอาหารนอกบ้าน รับประทานอาหารนอกบ้าน
อาหารปลอดภัย
อาหารปลอดภัยคงจะต้องเริ่มต้น ตั้งแต่การเลือกซื้ออาหารอย่างฉลาดซื้อ การเก็บอาหาร การปรุงอาหาร การรับประทานอาหาร และสุขอนามัย อ่านปรุงอาหารอย่างปลอดภัย
การดื่มสุรา
สุราหากดื่มมากจะทำให้เกิดโรคตับ เกิดอุบัติเหตุ ความดันโลหิตสูง แต่หากดื่มพอประมาณจะลดการเกิดโรคหัวใจ อ่านการดื่มสุรา
อาหารที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
ท่านเชื่อหรือไม่อาหารที่เรารับประทานอยู่ทุกวัน หากรับประทานมากจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง อ่านอาหารทำให้เกิดมะเร็ง
การออกกำลังกาย
ลำพังอาหารสุขภาพอย่างเดียว อาจจะไม่สามารถลดน้ำหนัก การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยลดน้ำหนัก ยังช่วยลดการเกิดโรคเรื้องรัง การออกกำลังกาย

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เรื่องของ "สุขภาพ"

สุขภาพ

          สุขภาพดีคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา สุขภาพดีเป็นสิ่งพรหมลิขิตให้แต่ไม่ทั้งหมด หลายคนไขว่ขว้าหาสุขภาพดี ใช้เงินใช้ทองซื้อทำสปา เข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก ซื้ออาหารลดน้ำหนักมารับประทาน การมีสุขภาพที่ดีต้องอาศัยตัวเองดูแลสุขภาพ ให้เวลากับตัวเองเพียงวันละ 1 ชั่วโมงในการออกกำลังกาย อีก 7 ชั่วโมงในการนอนหลับ และรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ
ธรรมชาติคงไม่ให้สุขภาพที่ดีแด่คนที่ชอบทำร้ายตัวเองอยู่เรื่อย แม้ว่าจะทราบแล้วว่าสิ่งนั้นไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ สุขภาพไม่สามารถซื้อด้วยเงิน ถึงแม้คุณจะรวยเป็นมหาเศรษฐีหากคุณไม่ดูแลตัวเองให้ดี เงินที่มีอยู่เพียงบรรเทาอาการเท่านั้น
          หลายท่านคิดว่าการออกกำลังกายเสียเวลา ท่านลองจิตนาการ ถึงภาระงานที่ท่านรับผิดชอบ ในแต่ละวันว่ามีมากน้อยเพียงใด หากท่านไม่ดูแลตัวเองและเกิดโชคร้ายท่านเป็นโรคอัมพาตหรือโรคหัวใจ ภาระที่ท่านว่ามากมายจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย ภาระเหล่านั้นใครจะเป็นคนดูแล และหากโชคร้ายถึงขั้นช่วยตัวเองไม่ได้ ใครจะมาเป็นคนดูแลท่าน ท่านเพียงเสียเวลาวันละประมาณ 1 ชั่วโมง หรือท่านอาจจะใช้เวลาในการดูทีว ีและออกกำลังกายไปด้วยกันซึ่งก็จะทำให้ท่านมีสุขภาพที่ดีขึ้น
          หลายท่านเชื่อว่า คนผอมเท่านั้นที่มีสุขภาพดี จึงทำการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นการใหญ่เพื่อให้น้ำหนักได้มาตรฐาน แต่การลดน้ำหนักอาจจะเป็นเรื่องลำบาก และการอดอาหารเป็นเวลานานๆอาจจะมีอันตรายต่อสุขภาพ จึงอยากให้ท่านผู้อ่านได้เปลี่ยนมุมมองใหม่
การมีสุขภาพที่ดีไม่ได้หมายถึงน้ำหนักที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแต่หมายถึงการที่เราดูแลตัวเองอย่าถูกต้องตั้งแต่เรื่อง การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร การพักผ่อน การป้องกันโรค การลดหรือเลิกสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพ ร่างกายเรากระปี้กระเปร่าพร้อมที่จะดำเนินชีวิตประจำวัน เนื้อหาที่จะกล่าวจะเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพของท่าน
          การปฏิบัติตามแนวทางไม่ได้ต้องการให้ท่านมีอายุยาวหมื่นๆปีแต่ต้องการให้ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย สามารถหลีกเลี่ยงโรคที่ป้องกันได้ อายุยืนยาวขึ้น  การที่จะมีสุขภาพที่ดีต้องประกอบไปด้วยการดูแลดังต่อไปนี้

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

ที่มาของสปา "Spa"

ประวัติ ความเป็นมาของการนวดกันเเล้ว ว่าทำไมถึงต้องนวด แต่ถ้าบางคน อาจจะยังไม่ทราบ นักก็จะนำเรื่องราวมาบอกกันค่ะ จริงๆ แล้วร่างกายของคนเราประกอบไปด้วย ธาตุต่างๆ มีทั้งน้ำ ลม และเเร่ธาตุต่างๆ ที่ผสมผสานกันเช่น ธาตุเหล็กที่อยู่ในเลือดของเรา เส้น เลือด ลม ต้องอยู่ในระดับสมดุล จึงทำให้ร่างกาย เป็นไปในทางที่ดี และมีสุขภาพที่ดี แต่เมื่อคนเราใช้ร่างกายอย่างผิดวิธี ไม่ว่าจะเดิน นั่ง หรือ นอน อิริยาบท ต่างๆ ทำให้ร่างกาย ไม่สมดุล เส้น เลือด ลม ต่างๆ ไหลเวียนไม่ทั่ว จึงต้องนวดไล่ลม ไล่เลือด เเก้เส้น ในสมัยพุทธกาล และก่อนพุทธกาล การนวด การฝึกโยคะ และ การบำบัดวิธีทางธรรมชาติมีมานานแล้ว จากการนวดเป็นที่เรียบร้อย ในทาง ตะวันตกก็มีการบำบัดเช่นกันโดยใช้น้ำ คือน้ำเเร่เป็นตัวช่วย สมุนไพร กลิ่นหอม เพื่อสร้างขบวนการให้สมองได้ปรับสมดุลเเละผ่อนคลาย เป็นเป็นที่มาของคำว่า สปา

สปา (spa) เป็นชื่อเรียกการบำบัดด้วยน้ำ ซึ่งมีหลายความหมายด้วยกัน โดยชื่อของสปานั้นมาจากชื่อเมืองสปาในประเทศเบลเยียม

ในยุคกลาง ชาวโรมันได้มีการพบบ่อน้ำพุร้อนในเมืองสปา โดยได้นำน้ำแร่จากบ่อน้ำไปใช้ล้างบาดแผลและรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ความเจ็บปวดที่เกิดจากขาดธาตุเหล็ก (chalybeate ที่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบ) และในปี ค.ศ. 1571 วิลเลียม สลิงส์บี (William Slingsby) ได้มีการค้นพบ chalybeate ในยอร์กไชร์ จึงได้สร้างบ่อน้ำ และเกิดมีการสร้างรีสอร์ทตามขึ้นมา ซึ่งในขณะนั้นทางอังกฤษสะกดคำว่าสปาว่า spaw
ในยุคปัจจุบันได้มีการนิยามศัพท์ภาษาละตินมาเพื่อให้เป็นคำเต็มของคำว่าสปา อาทิ เช่น "Salus Per Aquam” หรือ "Sanitas Per Aquam" ซึ่งหมายถึงสุขภาพที่ดีด้วยน้ำ คำเหล่านี้เป็นคำที่สร้างขึ้นมาภายหลังจากการใช้งานของคำว่าสปาเอง และไม่มีการใช้ในสมัยอดีตแต่อย่างใด

และในสมัยโรมันเอง ก็จะพบเห็น สปาทั่วไป ที่มีไว้ให้ทหาร หาญ ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด เพราะน้ำที่ชาวโรมันใช้อาบ ดื่ม นั้นเป็นน้ำเเร่ ที่มีเเร่ธาตุ ต่างๆ มากมายนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นพระนางคลีโอพัตรา ที่สวยอมตะ ก็อาบน้ำเเร่ ทำสปาเช่นกันค่ะ


Credit By: Nicky Ph

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การทำไวน์สปา...

พูดถึงสปากันต่อ นำมาฝากสำหรับเพื่อนๆ การทำไวน์สปา ค่ะ คลิปเต็มๆ กับการทำสปาไวน์ให้ชมกัน นอกจากใช้ดื่มแล้วก็สามารถใช้มาบำรุงผิวได้เหมือนกัน ในไร่องุ่นบางแห่งมีการนำไวน์มาใช้ในการอาบ ทำเครื่องสำอางค์บำรุงผิวพรรณ เป็นต้นกำเนิดของ สปา ไวน์ หรือ ไวน์ สปา ที่เรียกว่า vino spa หรือ Spas. Vinotherapie ที่เมืองไทยก็มีอยู่ที่ village farm วังน้ำเขียว เห็นไหมค่ะ ไม่ได้แค่ดื่มอย่างเดียว สารในองุ่น หรือ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สามารถนำใช้ประโยชน์ได้มากมายทีเดียว หรือแม้แต่กากกาแฟ 

ไวน์ เป็นน้ำองุ่นมีแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาระหว่างการหมัก(fermentation) ที่เปลี่ยน (convert) น้ำตาลในผลองุ่นให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. still wine เป็นไวน์ที่มีผู้นิยมดื่มกันมากที่สุด มีแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นเองในระหว่างการหมักประมาณ 10-14% vol. ซึ่งมีการผลิตเป็นไวน์แดง (red wine) ไวน์ขาว (white wine) และไวน์สีชมพู (rosé wine)
2. fortified wine เป็น still wine ที่นำมาปรุงแต่งโดยเอาบรั่นดีหรือว้อดก้าผสมลงไปก่อนที่จะทำการบรรจุขวด มีแอลกอฮอล์ประมาณ 18-24% vol.
fortified wine ที่ปรุงแต่งด้วยเครื่องเทศ สมุนไพร เปลือกไม้ รากไม้ ในระหว่างการผลิตจะเรียกว่า aperitif wine หรือ aromatized wine ใช้เป็นเครื่องดื่มก่อนรับประทานอาหาร ที่รู้จักกันดีคือไวน์ vermouth
fortified wine ที่ไม่ปรุงแต่งด้วยเครื่องเทศแต่มีความหวาน ใช้ดื่มกับของหวานและผลไม้ จะเรียกว่า dessert wine เช่น sherry จากประเทศสเปน และ port จากประเทศโปรตุเกส
sparkling wine เป็นไวน์ที่มีก๊าซ carbon dioxide ที่เกิดจากการหมักครั้งที่สอง นิยมดื่มฉลองในโอกาสสำคัญ ที่รู้จักกันดีคือ Champagne จากประเทศฝรั่งเศส


Credit By: Nicky Ph

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สมุนไพรให้สีแต่งสีอาหาร -อัญชัน

อัญชัน
ชื่อวิทยาศาสตร์  Clitoria ternatea L.
ชื่อสามัญ  Blue Pea, Butterfly Pea
วงศ์  LEGUMINOSAE-PAPILIONOIDEAE
ชื่ออื่น :  แดงชัน (เชียงใหม่); อัญชัน (ภาคกลาง); เอื้องชัน (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกเลื้อยพัน ยาว 1-5 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อย 3-9 ใบ รูปรีแกมขอบขนานหรือรูปรีแกมไข่กลับ กว้าง 1-3 ซม. ยาว 2-5 ซม. ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ กลีบดอกรูปดอกถั่ว สีน้ำเงิน ม่วงหรือขาว ตรงกลางกลีบสีเหลืองหม่นขอบสีขาว ผลเป็นฝัก รูปดาบ โค้งเล็กน้อย ปลายเป็นจะงอย แตกเป็น 2 ฝา เมล็ดรูปไต จำนวน 6-10 เมล็ด
ส่วนที่ใช้ :
  • กลีบดอกสดสีน้ำเงิน จากต้นอัญชันดอกสีน้ำเงิน
  • รากของต้นอัญชันดอกขาว
สรรพคุณและวิธีใช้ :
  • ดอกสีน้ำเงิน ใช้เป็นสีแต่งอาหาร ขนม
    ใช้กลีบดอกสด ตำเติมน้ำเล็กน้อย กรองด้วยผ้าขาวบาง คั้นเอาน้ำออก จะได้น้ำสีน้ำเงิน (Anthocyanin) ใช้เป็น indicator แทน lithmus
    ถ้าเติมน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย จะกลายเป็นสีม่วง ใช้แต่งสีอาหารตามต้องการ มักนิยมใช้แต่งสีน้ำเงินของขนมเรไร ขนมน้ำดอกไม้ ขนมขี้หนู
  • รากต้นอัญชันดอกสีขาว
    ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ยาระบาย
สารเคมี :  anthocyanin

สมุนไพรให้สีแต่งสีอาหาร -ฝาง

ฝาง
ชื่อวิทยาศาสตร์  Caesalpinia sappan L.
ชื่อสามัญ  Sappan Tree
วงศ์  LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE
ชื่ออื่น :  ง้าย (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี); ฝาง (ทั่วไป); ฝางส้ม (กาญจนบุรี)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :   ไม้พุ่มแตกกิ่งที่โคน สูง 5-8 เมตร สำต้นมีหนามโค้งสั้นๆ และแข็งทั่วทุกส่วน ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงสลับกัน ใบย่อยรูปไข่หรือรูปขอบขนานกว้าง 0.6-0.8 ซม. ยาว 1.5-1.8 ซม. โคนใบเฉียง ดอก ช่อ ออกที่ซอกใบตอนปลายกิ่งและที่ปลายกิ่ง กลีบรองดอกมี 5 กลีบ ขอบกลีบเกยซ้อนกัน กลีบล่างสุดโค้งงอและใหญ่กว่ากลีบอื่น กลีบดอกสีเหลือง มี 5 กลีบ เกสรตัวผู้มี 10 อัน แยกเป็นอิสระ ผล เป็นฝักแบนแข็งเป็นจงอยแหลม เปลือกเป็นสันมน ปลายแหลม  มีเมล็ดเป็นรูปรี 2-4 เมล็ด
ส่วนที่ใช้
แก่นของไม้มีสีแดง
                - มี วัตถุไม่มีสี ชื่อ Haematoxylin อยู่ 10% วัตถุนี้เมื่อถูกอากาศ อาจจะกลายเป็นสีแดง
                - มี แทนนิน เรซิน และน้ำมันระเหยนิดหน่อย
สรรพคุณ :
  • ฝาง มี 2 ชนิด ชนิดหนึ่งแก่นสีแดงเข้ม เรียกว่า ฝางเสน อีกชนิดหนึ่งแก่นสีเหลือง เรียกว่าฝางส้ม ใช้ทำเป็นยาต้ม 1 ใน 20 หรือยาสกัดสำหรับ Haematoxylin ใช้เป็นสีสำหรับย้อม Nuclei ของเซล ใช้แก่นฝางต้มเคี่ยว จะได้น้ำสีแดงเข้มคล้ายด่างทับทิมใช้ย้อมผ้าไหม งามดีมาก  ใช้แต่งสีอาหาร ทำยาอุทัย
สรรพคุณทางยา
  •  แก่นฝาง
    - รสขื่นขมหวาน ฝาด รับประทานเป็นยาบำรุงโลหิตสตรี ขับประจำเดือน แก้ปอดพิการ ขับหนอง ทำโลหิตให้เย็น รับประทานแก้ท้องร่วง แก้ธาตุพิการ แก้ร้อน แก้โลหิตออกทางทวารหนักและเบา
    - รักษาน้ำกัดเท้า แก้คุดทะราด แก้เสมหะ แก้โลหิต แก้เลือดกำเดา
  • น้ำมันระเหย - เป็นยาสมานอย่างอ่อน แก้ท้องเดิน
วิธีและปริมาณที่ใช้
  • แต่งสี ย้อมสี
    นำแก่นฝางเสนหรือฝางส้ม มาแช่น้ำหรือต้มเคี่ยวจะได้สีชมพูเข้ม (Sappaned) นำมาใช้ตามต้องการ
  • เป็นยาขับประจำเดือน
    ใช้แก่น 5-15 กรัม หรือ 5-8 ชิ้น ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เติมเนื้อมะขามที่ติดรกอยู่ (แกะเมล็ดออกแล้ว) ประมาณ 4-5 ฝัก เคี่ยวให้เหลือ 1 แก้ว รับประทาน เช้า-เย็น
  • เป็นยารักษาน้ำกัดเท้า
    ใช้แก่น 2 ชิ้น ฝนแก่นฝางกับน้ำปูนให้ข้นๆ ทาบริเวณที่น้ำกัดเท้า ในแก่นฝางมีตัวยาฝาดสมาน
แก้ท้องร่วง ท้องเดิน
ใช้แก่น หนัก 3-9 กรัม 4-6 ชิ้น ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 ถ้วยแก้ว รับประทานครั้งละครึ่งถ้วยแก้ว หรือใช้ฝาง 1 ส่วน น้ำ 20 ส่วน ต้มเคี่ยว 15 นาที รับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนโต๊ะ หรือ 4-8 ช้อนแกง

สมุนไพรให้สีแต่งสีอาหาร -คำแสด

คำแสด
ชื่อวิทยาศาสตร์  Bixa orellana  L.
ชื่อสามัญ  Annatto Tree
วงศ์  BIXACEAE
ชื่ออื่น :  คำเงาะ  คำแงะ  คำไทย คำแฝด คำยง  ชาตี  จำปู้  ส้มปู้ (เขมร-สุรินทรฒ) ชาด (ภาคใต้) ซิติหมัก (เลย)  มะกายหยุม แสด (ภาคเหนือ) หมากมอง (ฉาน-แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้น พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 3-8 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลมหนาทึก แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น รูปไข่ โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบบาง เกลี้ยงนุ่ม สีเขียวเหลือบแดง ใบอ่อนมีสีแดง กว้าง 8-10 ซม. ยาว 11-18 ซม. ดอก ออกเป็นช่อตั้งบริเวณปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมี 5-10 ดอก กลีบดอกรูปไข่ยาว สีขาวแกมชมพูหรือสีชมพูอ่อน กลีบรองดอกมีขนาดเล็ก สีเขียว กลีบดอกมี 5 กลีบ ดอกอ่อนจะกลม ผิวสีแดง มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก มีเกษรตัวเมีย 1 อัน ภายในมีช่อง 1 ช่อง มีไข่อ่อนจำนวนมาก ผล เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายแหลม มีขนสีแดงเข้มหนาทึบคล้ายผลเงาะ ผลแก่จัดแตกออกได้ 2 ซีก ภายในมีเมล็ดกลมเล็กๆ สีน้ำตาลแดงจำนวนมาก เนื้อหุ้มเมล็ดมีสีแดงหรือสีแสด
ส่วนที่ใช้
เมล็ด ดอก ใบ เนื้อหุ้มเมล็ด เปลือก ราก
สรรพคุณ :
  • เมล็ด
    - ให้สารสีแสด ชื่อสาร Bixin
    - ใช้แต่งสีอาหารประเภทไขมัน เช่น ฝอยทอง เนย ไอศครีม
    - ใช้ย้อมผ้าฝ้าย หรือ ผ้าไหมได้ด้วย
    ** องค์การอนามัยโลกกำหนดให้รับประทานสีที่สกัดจากเมล็ดคำแสดได้ไม่เกิน 0.065 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อ 1 วัน
    - มีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ ลดไข้ ฝาดสมาน
  • ดอก
    - มีคุณสมบัติเป็นยาบำรุงเลือด แก้โลหิตจาง แก้แสบร้อนคันตามผิวหนัง
    - รักษาโรคไตผิดปกติ แก้บิด แก้พิษ ฝาดสมาน
  • ใบ - แก้ดีซ่าน แก้เจ็บคอ ลดไข้ แก้บิด ขับปัสสาวะ
  • เนื้อหุ้มเมล็ด - เป็นยาระบายและขับพยาธิ แก้โรคผิวหนัง ใช้แต่งสีอาหาร และเนย
  • เปลือกราก - ใช้ป้องกันไข้มาเลเรีย ลดไข้ และโรคหนองใน
สารเคมี : ที่พบ
  • เนื้อหุ้มเมล็ด ให้สีที่เรียกว่า annatto ซึ่งเป็นสีอนุญาตให้ใช้ประกอบอาหารได้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2515)
    annatto ประกอบด้วยสาร Bixin (C25  H30 O4) สีแสดสด และสาร Bixol (C18  H30 O) สีเขียวเข้ม ใช้แต่งสีอาหารประเภทเนย และเนยเทียม (margarine) สีที่ได้จากเมล็ดคำแสด มีความคงทนและมีสีเข้มกว่าสีที่ได้จากแคโรทีนในต่างประเทศ นิยมใช้กันในผลิตภัณฑ์นม เช่น เนยเหลว เนยแข็ง เป็นต้น นอกจากนั้นยังใช้ผสมในยาขัดหนังที่ให้สีแดงคล้ำ
วิธีเตรียมสีจากเมล็ดคำแสด  : โดยแกะเมล็ดออกจากผลที่แก่จัด แช่น้ำร้อนหมักทิ้งไว้หลายๆ วันจนสารสีตกตะกอน แยกเมล็ดออก นำน้ำสีที่ได้ไปเคี่ยวจนงวดเกือบแห้ง แล้วนำไปตากแดดจนแห้งเป็นผงเก็บไว้ใช้

สมุนไพรให้สีแต่งสีอาหาร -ขนุน

ขนุน
ชื่อวิทยาศาสตร์  Artocarpus heterophyllus  Lam.
ชื่อสามัญ  Jack fruit tree
วงศ์ MORACEAE
ชื่ออื่น :  ขะนู (ชอง-จันทบุรี) ขะเนอ (เขมร) ซีคึย, ปะหน่อย (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)  นะยวยซะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี)  นากอ  (มลายู-ปัตตานี) เนน (ชาวบน-นครราชสีมา) มะหนุน (ภาคเหนือ,ภาคใต้) ล้าง,ลาน (ฉาน-เหนือ)  หมักหมี้ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) หมากกลาง (ฉาน-แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : : ไม้ต้น ขนาดใหญ่ สูง 15 - 30 เมตร ลำต้นและกิ่งเมื่อมีบาดแผลจะมีน้ำยางสีขาวข้นคล้ายน้ำนมไหล ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบรูปรี ขนาดกว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 10 - 15 เซนติเมตร ปลายใบทู่ ถึงแหลม โคนใบมน ผิวในด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน เนื้อใบหนาผิวใบด้านล่างจะสากมือ ดอก เป็นช่อแบบช่อเชิงสดแยกเพศอยู่รวมกัน ดอกเพศผู้เรียกว่า "ส่า" มักออกตามปลายกิ่ง ดอกเพศเมียจะออกตามกิ่งใหญ่และตามลำต้นยอดเกสรเพศเมีย เป็นหนามแหลม การออกดอก จะออกปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม และเมษายน - พฤษภาคม  ส่วนของเนื้อที่รับประทานเจริญมาจากกลีบดอก ส่วนซังคือกลีบเลี้ยง ผล เป็นผลรวมมีขนาดใหญ่
ส่วนที่ใช้ :
 ยวง เมล็ด แก่นของขนุน ส่าแห้งของขนุน ใบ
สรรพคุณ :
  • ยวงและเมล็ด - รับประทานเป็นอาหาร
  • แก่นของขนุน - ต้มย้อมผ้าให้สีน้ำตาลแก่
  • ส่าแห้งของขนุน - ใช้ทำชุดจุดไฟได้
  • แก่นขนุนหนังหรือขนุนละมุด - มีรสหวานชุ่มขม บำรุงกำลังและโลหิต ทำให้เลือดเย็น สมาน
  • ใบขนุนละมุด - เผาให้เป็นถ่านผสมกับน้ำปูนใสหยอดหู แก้ปวดหู และหูเป็นน้ำหนวก
  • ไส้ในของขนุนละมุด - รับประทานแก้ตกเลือดทางทวารเบาของสตรีที่มากไปให้หยุดได้
  • แก่นและเนื้อไม้ - รับประทานแก้กามโรค