Golden Dreams TMS&Herb

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด -ผกากรอง

ผกากรอง
ชื่อวิทยาศาสตร์  Lantana camara  L.
ชื่อสามัญ  Weeping Lantana, White Sage, Cloth of gold
วงศ์ Verbebaceae
ชื่ออื่น :  ก้ามกุ้ง Kam kung, เบญจมาศป่า  (Central); ขะจาย  ตาปู, มะจาย Ma chai (Mae Hong Son); ขี้กา (Prachin Buri); คำขี้ไก่ (Chiang Mai)); ดอกไม้จีน (Trat); เบ็งละมาศ, สาบแร้ง (Northern); ไม้จีน  (Chumphon); ยี่สุ่น  (Trang); สามสิบp (Chanthaburi); หญ้าสาบแร้ง  (Central, Northern)จีน ยี่สุ่น สามสิบ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้พุ่ม ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม มักมีขน ขอบใบหยัก สาก ด้านท้องใบมีขน ดอกเป็นดอกช่อเรียงตัวเป็นรูปกลม มีสีต่างๆ ตั้งแต่สีขาว เหลืองนวล หรืออาจเป็นสองสี ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นเป็นสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ ภายในมี 2 เมล็ด (1)

ส่วนที่ใช้ :
ใบ ดอก ราก เก็บได้ตลอดปี ใช้สด หรือตากแห้งเก็บไว้ใช้
สรรพคุณ :
  • ใบ  -  รสขม เย็น ใช้แก้บวม ขับลม แก้แผลผื่นคันเกิดจากชื้น หิด
  • ดอก - รสชุ่ม จืด เย็น ใช้แก้อักเสบ ห้ามเลือด แก้วัณโรค อาเจียนเป็นเลือด แก้ปวดท้องอาเจียน แก้ผื่นคันที่เกิดจากชื้น และรอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระทบกระแทก
  • ราก  -  แก้หวัด ปวดศีรษะ ไข้สูง ปวดฟัน คางทูม ฟกช้ำที่เกิดจากการกระทบกระแทก
วิธีและปริมาณที่ใช้
  • ใบสด - 15-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ตำพอกหรือคั้นเอาน้ำผสมเหล้าทา หรือต้มน้ำชะล้างบริเวณที่เป็น
  • ดอกแห้ง - 6-10 กรัม ต้มน้ำดื่ม
  • รากสด - 15-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ต้มน้ำอมบ้วนปาก แก้ปวดฟัน
ข้อห้ามใช้ : หญิงมีครรภ์ห้ามดื่ม
ตำรับยา

กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด -หนอนตายอยาก

หนอนตายอยาก
ชื่อวิทยาศาสตร์  Stemona tuberosa  Lour.
วงศ์ Stemonaceae
ชื่ออื่น :  กะเพียด (ประจวบคีรีขันธ์, ชลบุรี) หนอนตายหยาก (แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  เป็นไม้เถาล้มลุกเลื้อยพันต้นไม้อื่น เถากลมสีเขียว มีรากอยู่ใต้ดินคล้ายกระชาย เป็นไม้เลื้อยใบเดี่ยว รากออกเป็นกระจุก ใบ ออกเรียงสลับ ใบรูปหัวใจ กว้าง 4-6 เซนติเมตร ยาว 6-10 เซนติเมตร โคนใบเว้า ปลายใบเรียวแหลมเส้นใบแตกออกจากโคนใบ ขนานกันไปทางด้านปลายใบ แผ่นใบเป็นคลื่น ขอบใบเรียบหรืบิดเป็นคลื่น เล็กน้อย ก้านใบยาว ดอก เป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ ดอกสีแดงเข้ม กลีบดอกมี 4 กลีบ กลีบดอกด้านนอกมีสีเขียวปนเหลืองโคนกลีบดอกติดกัน ผล ลักษณะเป็นผัก ปลายแหลม ขนาดกว้าง1 เซนติเมตร ยาว 3เซนติเมตร ผลแห้งแล้วแตก

ส่วนที่ใช้ :
หัว รากแห้ง รากสด
สรรพคุณ
  • หัว - รักษาริดสีดวงทวารหนัก
  • รากแห้ง
    - ใช้เป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ รักษาวัณโรค
    - แก้โรคผิวหนัง ยาขับเบื่อพยาธิ
  • รากสด - รักษาจี๊ด หิด เหา แก้ปวดฟัน
วิธีและปริมาณที่ใช้
  • รักษาจี๊ด - ใช้รากสด 3-4 ราก ล้างน้ำให้สะอาด หั่นตำให้ละเอียดพอกตรงที่มีตัวจี๊ด ซึ่งจะสังเกตได้โดยบริเวณนั้นจะบวมขึ้นมา พอกหลายๆ ครั้ง จนกว่าจะหาย
  • รักษาเหา - ใช้รากสด 3-4 ราก ล้างน้ำให้สะอาด ตำผสมน้ำชะโลมเส้นผมทิ้งไว้  1 ชั่วโมง จึงสระออกให้สะอาด ทำติดต่อกัน 2-3 วัน จนเหาตายหมด
  • แก้ปวดฟัน - ใช้รากสด 1ราก ล้างให้สะอาด หั่นตำให้ละเอียด เติมเกลือ 1/2 ช้อนชา อมประมาณ 10-15 นาที แล้วบ้วนทิ้ง ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 2-4 ครั้ง ทิ้งระยะห่างกัน 4-5 ชั่วโมง จะหายปวดฟัน

กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด -ยาสูบ

ยาสูบ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Nicotiana tabacum  L.
ชื่อสามัญ  Tobacco
วงศ์ Solanaceae
ชื่ออื่น :  จะวั้ว (เขมร สุรินทร์)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูง 0.6-2 เมตร ตามลำต้นและยอดมีขนอ่อนปกคลุม ทุกส่วนของต้นมีต่อมน้ำยางเหนียว ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ รูปไข่แกมขอบขนาน กว้าง 10-20 เซนติเมตร ยาว 30-60 เซนติเมตร ปลายใบมน โคนใบเรียวสอบ ท้องใบและหลังใบมีขนปกคลุม ขอบใบเรียบและเป็นคลื่นเล็กน้อย ดอก เป็นดอกช่อออกที่ปลายยอด มีกลีบดอก สีชมพูปนขาว 5 กลีบ ส่วนโคนเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ปลายกลีบแหลม มีขนขาวปกคลุม กลีบเลี้ยงสีเขียว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นแฉกแหลม ผล เป็นผลแห้ง รูปขอบขนาน ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีน้ำตาล แตกออกได้ ด้านในมีเมล็ดสีน้ำตาลจำนวนมาก
ส่วนที่ใช้ :
ใบแก่ๆ
สรรพคุณ : รักษาเหา หิด เป็นยาถอนพิษ รักษาแผลน้ำร้อนลวก รักษาโรคผิวหนัง แก้หวัด คัดจมูก ฉีดพ่นฆ่าแมลงและเพลี้ยต่างๆ ได้ผลดี
วิธีและปริมาณที่ใช้
  • รักษาเหา - ใช้ยาฉุนหรือยาตั้ง (ใบยาสูบแก่ตากแห้ง) 1 หยิบมือ ผสมกับน้ำมันก๊าดประมาณ 3-4 ช้อนแกง ชะโลมทั้งน้ำและยาเส้นลงบนผมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วสระให้สะอาด ทำติดต่อกัน 3-4 วัน
  • เป็นยาถอนพิษ รักษาแผลน้ำร้อนลวก - ใช้ยาเส้นหรือยาตั้ง 1 หยิบมือ คลุกกับน้ำมันมะพร้าวปิดบริเวณที่ถูกน้ำร้อนลวก จะช่วยถอนพิษ
  • แก้หวัดคัดจมูก - ใช้ใบยาอย่างฉุนจัดๆ ผสมกับปูนแดงและใบเนียม กวนเป็นยานัตถุ์
  • แก้หิดและโรคผิวหนัง - ใช้ยางสีดำๆ ในกล้องสูบยาของจีนใส่แต้มแผล แก้หิดได้ดีมาก ใช้เคี่ยวกับน้ำมันทารักษาโรคผิวหนังต่างๆ ได้ด้วย
คุณประโยชน์ทางยา ใช้น้อย
     การสูบบุหรี่โดยการเผาใบยานี้ ทำให้นิโคตินและอัลคาลอยด์อื่นๆ สลายตัว วัตถุเหล่านี้ทำให้เกิดเป็นพิษขึ้นในการสูบบุหรี่ มีหลายคนแสดงว่าการสูบบุหรี่ มีอำนาจกล่อมประสาท (Soothing) แต่ไม่ใช่เนื่องจากอำนาจของนิโคติน
     การสูบบุหรี่มากทำให้เจ็บคอและไอ เนื่องจากลำคอและหลอดลม อักเสบบวม ถ้าอาการแรงหน่อยจะทำให้หัวใจอ่อนและเต้นไม่สม่ำเสมอ และผ่อนสภาพประสาทส่วนกลาง ความจำไม่ดี  มือสั่น หายใจอ่อน ความดันโลหิตลดลงต่ำ เหงื่อออกมาก
     แต่ถ้าเป็นคนสูบประจำ ก็จะไม่มีอาการเหล่านี้ เพราะร่างกายสามารถอ๊อกซิไดซ์นิโคตินได้พอควร คนที่สูบซิกาแรตวันละ 25 มวน จะต้องเสียสีของเม็ดโลหิตแดงไปประมาณ 25% ในคราวหนึ่ง
     นิโคตินเป็นแอลคาลอยด์ชนิดน้ำ มีอยู่ในใบของยาสูบประมาณ 7% ละลายง่ายในน้ำ แอลกอฮอล์ และอีเธอร์ ใช้มากในทางเกษตรกรรม ปรุงเป็นยาฉีดแมลงและเพลี้ยต่างๆ ได้ผลดี การผสม ใช้นิโคติน 1 ส่วน สบู่อ่อน 20 ส่วน ในน้ำ 2,000 ส่วน ยานี้มีพิษแรง ใช้ระวังถูกผิวหนังจะซึมเข้าไป เป็นพิษมาก

กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด -มะเขือมอญ

มะเขือมอญ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Abelmoschus esculentus (L.) Moench
ชื่อสามัญ Ladies' Finger, Lady's Finger, Okra
วงศ์  Malvaceae
ชื่ออื่น :  กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบมอญ มะเขือทวาย มะเขือมอญ (ภาคกลาง), มะเขือพม่า มะเขือมื่น มะเขือละโว้ (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูง 0.5-2 ม. มีขนทั่วไป ใบเดี่ยว เรียงสลับรูปไข่หรือค่อนข้างกลม กว้าง 10-30 ซม. ปลายหยักแหลม โคนเว้ารูปหัวใจ เส้นใบออกจากโคนใบ 3-7 เส้น ดอกใหญ่ ออกเดี่ยวๆ ตามง่ามใบ มีริ้วประดับ (epicalyx) เป็นเส้นสีเขียว 8-10 เส้น เรียงเป็นวงรอบโคนกลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลือง โคนกลีบสีม่วงแดง รูปไข่กลับหรือค่อนข้างกลม เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก ก้านชูอับเรณูติดกันเป็นหลอดยาว 2-3 ซม. หุ้มเกสรเพศเมียไว้ อับเรณูเล็กจำนวนมากติดรอบหลอด ก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว ปลายแยกเป็น 5 แฉก ยอดเกสรเพศเมียเป็นแผ่นกลมขนาดเล็ก สีม่วงแดง ยื่นพ้นปากหลอดดอก ผลเป็นฝักห้าเหลี่ยม ปลายเรียวแหลม มีขนทั่วไป มีเมล็ดมาก เมล็ดรูปไต ขนาด 3-6 มม.
ส่วนที่ใช้ผลอ่อน
สรรพคุณ : ใช้เป็นยาแก้จี๊ด รักษาโรคกระเพาะ
  • ยาแก้จี๊ด
    ใช้ผลอ่อน ไม่จำกัดจำนวน นำไปต้มหรือปิ้งไฟ ใช้ทำเป็นผักจิ้มหรือแกงส้ม รับประทานสดๆ จะได้ผลดีกว่า
  • รักษาโรคกระเพาะ
    ใช้ผลมะเขือมอญ ตากแห้ง บดให้ละเอียด รับประทานครั้งบะ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-4 เวลา หลังอาหารแล้วดื่มน้ำตาม

กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด -มะระขี้นก

มะระขี้นก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Momordica charantia  L.
ชื่อสามัญ  Bitter Cucumber, Balsum Pear
วงศ์ :  Cucurbitaceae
ชื่ออื่น :  ผักไห่ มะไห่ มะนอย มะห่วย ผักไซ (เหนือ) สุพะซู สุพะเด (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) มะร้อยรู (กลาง) ผักเหย (สงขลา) ผักไห (นครศรีธรรมราช) ระ (ใต้) ผักสะไล ผักไส่ (อีสาน) โกควยเกี๋ยะ โควกวย (จีน) มะระเล็ก มะระขี้นก (ทั่วไป)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ป็นไม้เลื้อยพันต้นไม้อื่น มีมือเกาะ ลำต้นเป็นเหลี่ยมมีขนปกคลุม ใบเดี่ยว ออกสลับลักษณะคล้ายใบแตงโมแต่เล็กกว่า มีสีเขียวทั้งใบ ขอบใบหยัก เว้าลึก มี 5-7 หยัก ปลายใบแหลม ออกดอกเดี่ยวตามง่ามใบ สีเหลืองอ่อน มี 5 กลีบ เกสรมีสีเหลืองแก่ถึงส้ม กลีบดอกบาง ช้ำง่าย ผลเดี่ยว รูปกระสวย ผิวขรุขระ มีปุ่มยื่นออกมา ผลอ่อนมีสีเขียว ผลสุกมีสีเหลืองถึงส้ม ผลแก่แตกอ้าออก เมล็ดสุกมีสีแดงสด รูปร่างกลมแบน
ส่วนที่ใช้ :
ราก เถา ใบ ดอก ผลและเมล็ด ใช้สดหรือตากแห้งเก็บไว้ใช้ ผลอาจเก็บมาหั่นเป็นท่อนๆ ตากแห้งเก็บไว้ใช้
ลักษณะยาแห้ง
: เนื้อผลแห้งมีลักษณะเป็นท่อนยาวกลม เนื้อหนาประมาณ 2-8 มม. ยาว 3-15 ซม. กว้าง 0.4-2 ซม. ทั้งแผ่นมีรอยย่นขรุขระ ผิวเปลือกสีเทาออกน้ำตาล ระหว่างกลางอาจมีเมล็ด หรือรอยของเมล็ดที่ร่วงไปแล้ว เนื้อแข็งหักง่าย รสขมเล็กน้อย ยาที่ดีควรมีผิวนอกสีเขียว เนื้อในสีขาว เป็นแผ่นบางมีเมล็ดติดมาน้อย
สรรพคุณ :
  • ผลแห้ง - รักษาโรคหิด
  • ผล - รสขม เย็นจัด ใช้แก้ร้อน ร้อนในกระหายน้ำทำให้ตาสว่าง แก้บิด ตาบวมแดง แผลบวมเป็นหนอง ฝีอักเสบ
  • เมล็ด - รสขม ชุ่ม ไม่มีพิษ แก้วัวถูกพิษใช้คั้นเอาน้ำให้กิน เป็นยากระตุ้นความรู้สึกทางเพศ เพิ่มพูนลมปราณ บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง
  • ใบ - แก้โรคกระเพาะ บิด แผลฝีบวมอักเสบ ขับพยาธิ
  • ดอก - รสขม เย็นจัด ใช้แก้บิด
  • ราก - รสขม เย็นจัด ใช้แก้ร้อน แก้พิษ บิดถ่ายเป็นเลือด แผลฝีบวมอักเสบ และปวดฟัน
  • เถา - รสขม เย็นจัด ใช้แก้ร้อน แก้พิษ บิดฝีอักเสบ ปวดฟัน
วิธีและปริมาณที่ใช้
  • ผลสด - ต้มรับประทาน ครั้งละ 6-15 กรัม หรือผิงไฟให้แห้ง บดเป็นผงรับประทาน ใช้ภายนอก ตำคั้นเอาน้ำทาหรือพอก
  • เมล็ดแห้ง - 3 กรัม ต้มน้ำดื่ม
  • ใบสด - 30-60 กรัม ต้มน้ำดื่ม หรือใบแห้งบดเป็นผงรับประทาน ใช้ภายนอกต้มเอาน้ำชะล้าง กอก หรือคั้นเอาน้ำทา
  • รากสด - 30-60 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ต้มเอาน้ำชะล้าง
  • เถาแห้ง - 3-12 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ต้มเอาน้ำชะล้าง หรือตำพอก
ข้อห้ามใช้ : พวกที่ม้ามเย็นพร่อง กระเพาะเย็นพร่อง เมื่อรับประทานเข้าไปจะอาเขียน ถ่ายท้องปวดท้อง
ตำรับยา
  • แก้ไข้ที่เกิดจากกระทบความร้อน
    ใช้ผลสด 1 ผล ควักไส้ในออกใส่ใบชาเข้าไปแล้วประกบกันน้ำไปตากแห้งในที่ร่ม รับประทานครั้งละ 6-10 กรัม โดยต้มน้ำดื่มหรือชงน้ำดื่มต่างชาก็ได้
  • แก้ร้อนในกระหายน้ำ
    ใช้ผลสด 1 ผล ขูดไส้ในออก หั่นฝอยต้มน้ำดื่ม
  • แก้บิด ใช้น้ำคั้นจากผลสด 1 แก้ว ผสมน้ำดื่ม
    - แก้บิดเฉียบพลัน ใช้ดอกสด 20 ดอก ตำคั้นเอาน้ำมาผสมน้ำผึ้งพอสมควรดื่ม บิดถ่ายเป็นเลือด ก็เพิ่มข้าวแดงเมืองจีน (อั่งคัก
    Monascus pur-pureus, Went.) อีก 2-3 กรัม บิดมูกให้เพิ่มอิ๊ชั่ว (ยาสำเร็จรูปชนิดหนึ่ง) 10 กรัม ผสมน้ำสุกรับประทาน
    - แก้บิดปวดท้อง ถ่ายเป็นเมือกๆ ใช้รากสด 60 กรัม น้ำตาลกรวด 60 กรัม ต้มน้ำดื่ม ถ่ายเป็นเลือด ใช้รากสด 120 กรัม ต้มน้ำดื่ม
    - แก้บิดถ่ายเป็นมูกเลือดหรือเลือด ใช้เถาสด 1 กำมือ แก้บิดมูก ใส่เหล้าต้มดื่ม แก้บิดเลือด ให้ต้มน้ำดื่ม
  • แก้แผลบวม  ใช้ผลสดตำพอก
  • แก้ปวดฝี  ใช้ใบแห้ง บดเป็นผงชงเหล้าดื่มแก้ฝีบวมปวดอักเสบ ใช้ใบสดตำคั้นเอาน้ำทาบริเวณที่เป็นหรือใช้รากแห้งบดเป็นผงผสมน้ำพอก
  • แผลสุนัขกัด ใช้ใบสดตำพอก
  • แก้ปวดฟัน  ใช้รากสดตำพอก
  • ขับพยาธิ  ใช้ใบสด 120 กรัม ตำคั้นเอาน้ำดื่ม นอกจากนี้ยังใช้เมล็ด 2-3 เมล็ด รับประทานขับพยาธิตัวกลม
  • แก้คัน แก้หิดและโรคผิวหนังต่างๆ  ใช้ผลแห้งบดเป็นผง ใช้โรยแผลแก้คันหรือทำเป็นขี้ผึ้ง ใช้ทาแก้หิดและโรคผิวหนังต่างๆ
สารเคมีที่พบ
  • ผล  มี Charanthin (b - Sitosterol b - D - glucoside กับ 5,25 stigmastadien 3b - ol -b - D - Glucoside), Serotonin และ Amino acids เช่น Glutamic acid, Alanine,  b - Alanine Phenylalanine, Proline,  a - Aminobutyric acid, Citrulline,  Galacturonic acid
  • เมล็ด มีความชื่น 8.6%  เถ้า 21.8% Cellulose 19.5%  เถ้าที่ละลายน้ำ 16.4% ไขมัน 31.0 % (ประกอบด้วย Butyric acid 1.8%  Palmitic acid 2.8%, Stearic acid 21.7%  Oleic acid 30%,  a - Elaeostearic acid 43.7%, Momordicine, Protein
  • ใบสด มี Momordicine

กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด -บวบขม

บวบขม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Trichosanthes cucumerina  L.
ชื่อสามัญ  
วงศ์  Cucurbitaceae
ชื่ออื่น : นมพิจิตร มะนอยจ๋า (ภาคเหนือ) กะตอรอ (ปัตตานี)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้เถา ลำต้นเป็นร่อง มือเกาะมี 2-3 แขนง ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปกลม หรือคล้ายรูปไต โคนใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจ ขอบใบหยักเป็นซี่และเว้าลึกเป็น 5 แฉก ปลายใบแหลมหรือกลม มีขนทั้งสองด้าน ก้านใบเล็ก ดอกมีการแยกเพศอยู่ต่างต้น ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อก้านชูดอกเล็กคล้ายเส้นด้าย มีขนเล็กน้อย กลีบรองกลีบดอกกลีบเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ รูปไข่แกมสามเหลี่ยมมีเส้น 3 เส้นกลีบอยู่ชิดกัน เกสรตัวผู้ 3 อัน รูปทรงกระบอก ดอกเพศเมีย ออกดอกเดี่ยว กลีบรองกลีบดอกและกลีบดอก มีลักษณะเหมือนกันกับดอกเพศผู้ รังไข่รูปยาวรี ท่อรังไข่เล็กเหมือนเส้นด้าย ผลรูปกลมยาว หัวท้ายแหลม สีเขียวมีลายสีขาวตามยาวของผล มีขนสีแดง เมล็ดมี 8-10 เมล็ด รูปขอบขนาน ขอบเป็นคลื่น

ส่วนที่ใช้
รังบวบขม
สรรพคุณ : แพทย์ตามชนบทใช้รังบวบขมฟอกศรีษะแก้รังแค แก้เหาดี

กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด -น้อยหน่า

น้อยหน่า
ชื่อวิทยาศาสตร์  Annona squamosa L.
ชื่อสามัญ  Sugar Apple
วงศ์  Annonaceae
ชื่ออื่น :  : น้อยแน่  มะนอแน่  หมักเขียบ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ยืนต้น สูง 3-5 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอกแกมขอบขนาน กว้าง 3-6 ซม. ยาว 7-13 ซม. ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ ห้อยลง กลีบดอกสีเหลืองแกมเขียว 6 กลีบ เรียง 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ หนาอวบน้ำ มีเกสรตัวผู้และรังไข่ จำนวนมาก ผลเป็นผลกลุ่ม ค่อนข้างกลม
ส่วนที่ใช้ :
ใบสด หรือ เนื้อในเมล็ดสด
สรรพคุณ :
  • รักษาเหา
  • รักษาหิด
  • รักษาจี๊ด
วิธีและปริมาณที่ใช้
  • ยารักษาเหา
    ใช้ใบสด 8-12 ใบ หรือเมล็ดที่กะเทาะเปลือกแล้วตำให้ละเอียด 4-5 ช้อนแกง นำมาผสมกับน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันถั่วพอเปียกเล็กน้อย (แฉะๆ) ชะโลมบนเส้นผมที่เป็นเหา ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง สระออกให้หมด ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 2-3 วัน ตัวเหา และไข่จะฝ่อหมด หรืออาจจะใช้ความแรงของใบสด หรือเมล็ดน้อยหน่ากับน้ำมันมะพร้าว ความแรง 1:2
  • ยารักษาหิด
    ใช้ใบสดหรือเมล็ดในสด จำนวนไม่จำกัด ตำให้ละเอียด เติมน้ำมันพืชลงไปพอแฉะ ใช้ทาบริเวณที่เป็นหิดวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย
  • ยารักษาจี๊ด
    ใช้เนื้อเมล็ดสด 20 เมล็ด ตำให้ละเอียด ใช้สารส้มเท่ากับหัวแม่มือ ใส่ในฝาละมี ตั้งไฟอ่อนๆ เมื่อสารส้มละลาย ค่อยๆ โรยผงของเมล็ดน้อยหน่าลงไปทีละน้อย คนจนเข้ากันดี จากนั้นใช้ไม้ป้ายยาที่กำลังร้อนแต่พอให้ผิวหนังทนได้ ป้ายลงตรงตำแหน่งที่บวม ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ทำหลายๆ วัน จนกว่าจะหาย ยาที่เหลือจะแข็งพอจะใช้ตั้งไฟอ่อนๆ
ข้อควรระวัง : ถ้าใช้น้ำสกัดจากเมล็ดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ และควรระวังอย่าให้น้ำยาเข้าตา เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
สารเคมี
  • ใบ มี แอลคาลอยด์ชื่อ Anonaine และน้ำมันหอมระเหย ประกอบด้วย Borneol, Camphene, Camphor, Carvone, Eugenol, Geraniol, Thymol, Menthone, Pinene
  • เมล็ด มีแอลคาลอยด์ชื่อ Anonaine, Fixed Oil Steroids ผงของเมล็ดน้อยหน่า 1.8 กิโลกรัม ให้ Anonaine 0.258 กรัม

กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด -กระทกรก

กระทกรก
ชื่อวิทยาศาสตร์  Passiflora foetida L.
ชื่อสามัญ  Fetid passionflower, Scarletfruit passionflower, Stinking passionflower
วงศ์  Passifloraceae
ชื่ออื่น :  รก กระโปรงทอง ละพุบาบี หญ้ารกช้าง (ใต้) ตำลึงฝรั่ง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้เถาเลื้อยคล้ายตำลึง เถาค่อนข้างคดไปงอมา เถามีหนามเล็ก ๆ ขึ้นอยู่ห่าง ๆ โดยทั่วไป ใบเป็นใบเดี่ยว รูปใบมนโค้งผิวเรียบปลายใบแหลมโดยแยกเป็นสามแฉก ใบและเส้นใบบริเวณที่ติดต่อกันมีสีแดงเรื่อ บริเวณใกล้โคนก้านใบมีแฉกแหลมเล็กเรียงตรงกันข้ามสลับกัน ก้านใบ มีขนาดก้านไม้ขีด ยาว 5 –6 เซนติเมตร มีขนอ่อนเป็นฝอยขนาดเล็ก ดอกมีลักษณะก้านดอกยาวกว่าใบ ดอกบานออกกลมกว้าง กลีบดอกสีขาวแซมด้วยริ้วสีม่วง ผลค่อนข้างกลมขนาดปลายนิ้วมือ และห่อหุ้มด้วย รกผลสุกมีสีเหลือง
ส่วนที่ใช้ :
สรรพคุณ :
  • เนื้อไม้ มีรสชาติฝาดเฝื่อนเล็กน้อย ใช้เป็นยาคุมธาตุถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิด รักษาบาดแผล
  • เปลือก นำมาต้มรมแผลที่เน่าเปื่อย ทำให้แผลแห้ง
  • เมล็ด ทาท้องเด็ก แก้ท้องอืด ทำให้ผายลม วิธีใช้โดยการ ตำเมล็ดให้ละเอียด และผสมกับน้ำสับปะรดลนควันให้อุ่น และใช้ทาท้องเด็ก
  • ราก ต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ แก้กามโรค
  • ใบ นำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำดื่มเป็นยาเบื่อ ขับพยาธิ หรือตำให้ละเอียดเอากากสุมศีรษะ แก้ปวดศีรษ